ขอแนะนำ “การเดินทางที่มีความยั่งยืน” ที่สามารถสนุกกับการเดินทางได้ทั้งยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของผู้คนที่อยู่อาศัย

ในเมืองท่องเที่ยวส่วนใหญ่เช่นเวนิสหรือเกียวโตประสบปัญหาจากการท่องเที่ยว เช่น นักท่องเที่ยวล้นหรือปัญหาขยะ มากขึ้นเรื่อยๆ

สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งผู้คนคับคั่ง ทำให้เกิดความเครียดสูง ไม่ว่าคนที่เดินทาง หรือคนที่อยู่อาศัยในท้องถิ่นนั้น การเดินทางไปที่ต่างๆ ก็อาจทำได้แค่ครึ่งเดียว การต้อนรับขับสู้นักท่องเที่ยวในภูมิภาคนั้นก็จะจืดจางและไม่ทั่วถึง เราอยากให้ “การเดินทาง” เป็นแหล่งในการแลกเปลี่ยนที่เป็นมิตรทั้งกับคนที่มาเยือนและคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น และเป็นสิ่งที่สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน การเคารพกันและกัน และสันติภาพ

อาวาตาร์ไกด์ช่วยขับเคลื่อนต่างจังหวัดให้คึกคัก

ไกด์ล่ามทั่วประเทศส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่รอบๆ เมืองใหญ่ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากระจุกตัวรวมกัน และโดยมากก็รองรับแต่ภาษาอังกฤษ อีกทั้งการหาไกด์ในฤดูท่องเที่ยวอย่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นเรื่องยาก ยิ่งกว่านั้น ในเมืองต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยมีไกด์ ส่วนใหญ่ต้องส่งไกด์ซึ่งจัดหามาจากในเมืองหลวงเท่านั้น จึงไม่ได้จ่ายแค่ค่าจ้างไกด์เท่านั้น แต่มีค่าใช้จ่ายอื่น เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหาร เพิ่มขึ้นอีกมากด้วย ค่าไกด์ในครึ่งวัน หรือ 1-2 วันจึงกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ และยังไม่ได้จ้างง่ายขนาดนั้นอีกด้วย

อุตส่าห์สนใจเดินทางมาเยือนทั้งที แต่จบด้วยการแค่ได้มาเหยียบพื้นที่ตรงนั้น ข้อมูลก็หาจากในไกด์บุ๊คหรือเสิร์ช Google ก็น่าเสียดายนะคะ

เพื่อได้รู้จักสถานที่ที่มาเยือนมากยิ่งขึ้น และประทับใจมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากให้ได้ใช้อาวาตาร์ไกด์กันดูค่ะ

ประวัติศาสตร์ยาวนานของญี่ปุ่นที่ไกด์บุ๊คไม่ได้เขียนถึงสามารถเติมเต็มจากเมืองต่างจังหวัดได้อีกมากมาย

ทุกท่านที่อุดหนุนและเผยแพร่ระบบอาวาตาร์ไกด์
มาบอกต่อเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่ยังมีอีกมากมายจากท้องถิ่นต่างๆ ดูไหมคะ?

• รัฐบาลท้องถิ่นที่อยากเปิดโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวขาเข้าทุกท่าน
• บริษัทท่องเที่ยวที่จัดหาการเดินทางขาเข้าแต่ยังกังวลใจเรื่องไกด์ทุกท่าน
• ผู้ประกอบการที่พักที่ลูกค้าขาเข้าใช้บริการทุกท่าน
• บริษัทรถบัสที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าขาเข้า และบริษัทแท็กซี่ทุกท่าน